ในชีวิตประจำวัน เรามักพบเจอผู้คนที่มีบุคลิกภาพหลากหลาย บางคนทำให้เรารู้สึกสบายใจและเป็นแรงบันดาลใจ แต่บางคนกลับทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าและหมดพลัง คนที่มีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder หรือ NPD) เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงลบต่อจิตใจและความสัมพันธ์ของผู้คนรอบข้างได้อย่างมากมาย
บุคลิกภาพแบบ Narcissist ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนที่มีความมั่นใจในตัวเองหรือชอบการยกย่องชมเชยจะเข้าข่ายเป็นคนหลงตัวเอง บุคลิกนี้มีความซับซ้อนกว่าที่หลายคนเข้าใจ และการเรียนรู้เพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่างความมั่นใจกับความหลงตัวเองที่เป็นปัญหาจริงๆ จะช่วยให้เรารับมือกับคนประเภทนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในวันนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะเด่น พฤติกรรมที่พบบ่อย อันตรายที่อาจเกิดขึ้น และวิธีการรับมือกับคนที่มีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง และมาเช็คกันอีกด้วยว่า คุณเข้าข่ายเป็น Narcissist เองหรือเปล่า เพื่อช่วยปกป้องความสัมพันธ์และสุขภาพจิตของคุณ จากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากคนประเภทนี้
คุณลักษณะของคนที่เป็น Narcissist (บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง)
มีบุคลิกภาพที่โดดเด่นในด้านการหลงตัวเอง ต้องการความชื่นชมจากผู้อื่นมากเกินไป และขาดความเห็นใจผู้อื่น โดยลักษณะและพฤติกรรมสำคัญมีดังนี้
1. ต้องการความสนใจและคำชมเชยอย่างมาก
คนเหล่านี้มักพยายามทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ และแสวงหาความชื่นชมจากผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง เช่น ชอบคุยโอ้อวดเรื่องความสำเร็จของตัวเอง
ตัวอย่างเช่น
คนที่ชอบโพสต์ในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ และหวังให้คนมากดไลค์หรือชื่นชมเสมอ
2 รู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญมากเกินไป
มักเชื่อว่าตนเองดีกว่าคนอื่น มีสิทธิพิเศษ หรือสมควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
ตัวอย่างเช่น
คนที่โมโหเมื่อไม่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษในที่ทำงาน เช่น ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งตามที่คาดหวัง
3 ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
มีความสามารถจำกัดในการเข้าใจหรือใส่ใจความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น
ตัวอย่างเช่น
ไม่ใส่ใจเพื่อนที่กำลังมีปัญหา แต่จะพูดถึงตัวเองแทน
4 ชอบแข่งขันหรือเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
มักรู้สึกว่าคนอื่นเป็นคู่แข่ง และต้องการให้ตัวเองดูเหนือกว่าในทุกด้าน
5 ควบคุมและบงการผู้อื่น
พยายามควบคุมความคิดหรือพฤติกรรมของคนรอบข้างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตัวเองต้องการ
6 หลอกลวงหรือใช้คนอื่นเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
ใช้ความสัมพันธ์ในการเอาเปรียบ เช่น ใช้เพื่อนร่วมงานเพื่อความก้าวหน้าโดยไม่แคร์ความเสียหายที่เกิดขึ้น
7 ปฏิเสธความผิดพลาด
ไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองและมักโยนความผิดให้คนอื่น
ความอันตรายของคนที่เป็น Narcissist
1 ทำลายความสัมพันธ์
การขาดความเห็นอกเห็นใจและการบงการทำให้คนใกล้ชิดรู้สึกหมดพลังและสูญเสียความไว้วางใจ
2 ก่อให้เกิดความเครียดในทีมงาน
ในที่ทำงาน คนประเภทนี้มักทำให้ทีมเกิดความขัดแย้งและขาดความร่วมมือ
3 ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของคนรอบข้าง
การใช้คำพูดหรือพฤติกรรมกดดันผู้อื่นอาจทำให้คนใกล้ชิดรู้สึกหมดกำลังใจหรือเป็นโรคซึมเศร้า
เมื่อเราต้องเจอกับคนประเภทนี้ เราจะวิธีรับมือกับพวกเขาอย่างไร
1 ตั้งขอบเขต
ชัดเจนในเรื่องขอบเขตส่วนตัว และอย่าปล่อยให้เขาควบคุมความคิดหรือพฤติกรรมของคุณ
ตัวอย่างเช่น
หากเขาพยายามบงการการตัดสินใจของคุณ ให้บอกว่า “ฉันตัดสินใจได้เอง ขอบคุณที่แนะนำ”
2 อย่าตอบสนองทางอารมณ์
พยายามควบคุมอารมณ์ตนเอง อย่าโต้เถียงหรืออารมณ์ร้อน เพราะจะทำให้เขาได้เปรียบ
3 สร้างระยะห่างหากจำเป็น
หากพฤติกรรมของเขาก่อให้เกิดอันตรายทางจิตใจหรืออารมณ์ ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรง
คนที่มีลักษณะ Narcissist อาจดูมีเสน่ห์ในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมของเขามักสร้างความเสียหายให้กับความสัมพันธ์ในระยะยาว การเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเองและไม่ตกเป็นเหยื่อของพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพจิตของคุณเอง
ต่อมาแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเป็น Narcissist หรือเปล่า
การประเมินว่าตนเองมีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง หรือไม่ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนที่มีลักษณะนี้มักไม่ตระหนักว่าพฤติกรรมของตนเองเป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการสังเกตพฤติกรรม ความคิด และความสัมพันธ์ของตัวเองตามแนวทางต่อไปนี้
1. การสำรวจพฤติกรรมและความคิดของตนเอง
ถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้
คุณคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่นหรือเปล่า?
เช่น มองว่าความต้องการของคุณควรได้รับการจัดลำดับก่อนคนอื่นเสมอ
คุณต้องการคำชื่นชมตลอดเวลาหรือไม่?
เช่น รู้สึกไม่พอใจหรือหงุดหงิดเมื่อไม่ได้รับคำชมเชย
คุณรู้สึกว่าคุณดีกว่าคนอื่นเสมอหรือไม่?
เช่น คิดว่าคุณฉลาดกว่า เก่งกว่า หรือเหมาะสมกว่าคนอื่นในสถานการณ์ต่าง ๆ
คุณมีความเห็นใจคนอื่นหรือเปล่า?
คุณสามารถเข้าใจและสนใจความรู้สึกหรือความต้องการของผู้อื่นได้มากน้อยแค่ไหน
2.เช็คพฤติกรรมในความสัมพันธ์ของตัวเอง
ความสัมพันธ์ของคุณมักมีปัญหาหรือไม่?
เช่น มีความขัดแย้งบ่อยครั้ง เพราะคุณมักต้องการควบคุมสถานการณ์หรือไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
คุณมักใช้คนอื่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่?
เช่น ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองจะได้รับจากความสัมพันธ์มากกว่าความสัมพันธ์เอง
3. สังเกตปฏิกิริยาของคนรอบข้าง
คนใกล้ตัวคุณเคยพูดหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของคุณไหม เช่น บอกว่าคุณเห็นแก่ตัวหรือไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น
คนรอบข้างเคยถอยห่างหรือแสดงความไม่พอใจในตัวคุณโดยที่คุณไม่เข้าใจเหตุผลหรือไม่
4. ใช้แบบประเมินหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
แบบประเมิน NPD
มีแบบสอบถามเชิงจิตวิทยาที่สามารถช่วยให้คุณตรวจสอบว่าคุณมีลักษณะของ Narcissist หรือไม่ เช่น Narcissistic Personality Inventory (NPI)
ปรึกษานักจิตวิทยาหรือนักบำบัด
หากคุณสงสัยเกี่ยวกับบุคลิกภาพของตัวเอง การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณได้มุมมองที่ชัดเจนและเป็นกลาง
5. สัญญาณเตือนที่คุณควรระวัง
คุณปฏิเสธความผิดพลาดของตัวเองเสมอและมักโยนความผิดให้คนอื่น
คุณรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจหรือเห็นค่าคุณเท่าที่ควร
คุณไม่พอใจเมื่อถูกวิจารณ์ แม้คำวิจารณ์นั้นจะสร้างสรรค์
หากพบว่าตัวเองมีลักษณะ Narcissist ควรทำอย่างไร?
ยอมรับความเป็นจริง
การยอมรับว่าอาจมีพฤติกรรมที่ต้องปรับปรุงเป็นก้าวแรกที่สำคัญ
ฝึกการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ลองฝึกใส่ใจความรู้สึกและความต้องการของคนรอบข้าง
พัฒนาตนเองด้วยการบำบัด
การพูดคุยกับนักจิตวิทยาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและปรับปรุงพฤติกรรมได้
รับฟังความคิดเห็น
เปิดใจรับฟังคำแนะนำหรือคำวิจารณ์จากคนรอบข้างโดยไม่ป้องกันตัวเองมากเกินไป
การสำรวจตัวเองต้องใช้ความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง หากคุณสงสัยว่าตัวเองอาจมีลักษณะ Narcissist การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้
บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง เป็นลักษณะที่โดดเด่นด้วยการหลงตัวเองอย่างมาก ต้องการคำชื่นชมอย่างต่อเนื่อง ขาดความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น และมักรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญเหนือผู้อื่น พฤติกรรมเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์และสภาพแวดล้อมรอบตัว ทั้งในครอบครัว ที่ทำงาน และสังคม
อย่างไรก็ตาม การรับมือกับคนที่มีลักษณะ Narcissist ควรเริ่มต้นด้วยการตั้งขอบเขตที่ชัดเจน ไม่ตอบสนองทางอารมณ์ และขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น สำหรับคนที่สงสัยว่าตนเองอาจมีพฤติกรรมแบบ Narcissist การประเมินตัวเองอย่างจริงจัง และการปรึกษานักจิตวิทยาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง