ทำไมนักพูดบนเวที TED Talk ถึงได้รับความสนใจจากทั่วโลก

คุณผู้อ่านหลายท่านในที่นี้คงรู้จัก หรือว่าได้ยินเกี่ยวกับเวที TED Talk กันมาพอสมควรแล้วใช่ไหมค่ะ เวทีที่มีแต่นักพูด คนสำคัญ คนเก่งๆ ระดับโลก และวันนี้ค่ะ ขายไอเดียจะมาเล่าให้ฟังว่าทำไม คนที่ถูกรับเชิญให้มาพูดบนเวที TED Talk เขาถึงพูดได้น่าฟัง จับใจคนฟัง

 และที่สำคัญเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกอีกด้วย อะไรคือความสำเร็จในการพูดของนักพูดเหล่านั้น ซึ่งวิธีการและแนวคิดของการเตรียมตัวของนักพูด เราสามารถนำมาประยุกต์และปรับใช้ กับชีวิตประจำวันของเราได้เช่นกันค่ะ เนื้อหาที่ขายไอเดียจะพูดถึงวันนี้ได้นำมาจาก หนังสือ Talk Like TED ค่ะ 

ไม่ใช่ว่าคนเก่ง หรือว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนจะพูดเก่งนะค่ะ แต่การพูดเก่ง พูดให้คนสนใจฟัง เราสามารถฝึกฝนกันได้ค่ะ และแน่นอนว่า นักพูดบนเวที Ted Talk เขาก็มีการฝึกฝน และมีการเตรียมตัวมามากพอสมควรเช่นกันค่ะ กว่าเขาจะขึ้นไปพูดเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม นักพูดแต่ละท่านต่างก็ผ่านการซ้อมพูดหน้ากระจกในบ้านของตัวเอง เป็นร้อยๆ ครั้ง

เพื่อความมั่นใจของตัวเอง และต้องการให้พูดฟังได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ค่ะ หนังสือเล่มนี้เขียนโดยคุณ คาร์มาย ค่ะ คุณคาร์มาย ได้ทำการสัมภาษณ์นักพูดบนเวทีเทดทอกว่าอะไร คือเคล็ดลับที่ทำให้พวกเขา ประสบความสำเร็จในการพูดให้คนทั่วโลกสนใจที่อยากจะฟัง และมียอดวิว หลายล้านวิวบนยูทูบ ซึ่งคุณคาร์มาย ก็ได้สรุปหลักการของนักพูดเหล่านั้นคือ คุณต้องพูดให้คนฟังเข้าถึงอารมณ์ ต้องพูดในเรื่องที่แปลกใหม่ และต้องสร้างการจดจำให้กับผู้ฟังค่ะ 

การพูดที่ดี

• เข้าถึงอารมณ์
• แปลกใหม่
• น่าจดจำ

ซึ่งการจะพูดให้เข้าถึงอารมณ์นั้น เราต้องพูดออกมาจากใจ และพูดในแบบที่เป็นตัวเองที่สุดไม่ต้องพยายามเสแสร้ง พูดออกมาจากใจแล้วจะได้ใจคนฟังไปเต็มๆ ค่ะ และเรื่องที่จะพูดนั้นถ้าจะให้คนฟังสนใจก็ต้องพูดในเรื่องที่แปลกใหม่ ที่ยังไม่เคยมีใครพูดมาก่อน นั้นก็เป็นการบ้านของนักพูดที่ต้องทำการบ้านและศึกษาหาข้อมูลว่าเรื่องที่ตัวเองจะพูดนั้น เนื้อหาซ้ำกับใครหรือเปล่า และสุดท้ายค่ะ ต้องสร้างการจดจำ ให้กับพูดฟัง โดยการนำเสนอเนื้อหาในแบบที่ผู้ฟังลืมไม่ลง อย่างเช่น วิธีการนำเสนอ ภาพสไลด์ หรือว่าอุปกรณ์ที่นำมาให้ดูประกอบการพูดค่ะ 

ซึ่งแน่นอนว่า ต่อให้คนเหล่านี้ เก่งแค่ไหน ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักเช่นกันค่ะ เพราะความสำเร็จมันไม่มีคำว่าฟลุก มีแต่คำว่า ความพยายามอย่างเต็มที่ อยากได้อะไรก็ต้องลงมือทำ ความสำเร็จไม่สามารถตกลงมาจากฟ้า ได้ 

คุณสตีจ๊อป ได้กล่าวบนเวทีเทดทอกว่า เวลาของเรามีจำกัดอย่ามัวแต่ทำตามคนอื่น ให้ทำตามความต้องการของตัวเอง 

มนุษย์มีความสามารถ

คุณคาร์ไมล์ ได้ฝากไว้ว่า มนุษย์เรามีความสามารถมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะ ถ้าหากคุณอยากที่จะเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันความรู้ และจุดประกายความฝันให้กับคนอื่น คุณสามารถเป็นได้ แต่คุณต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากพอเพียงเท่านั้นเองค่ะ 

ไม่ว่าใครจะบอกว่าคุณไม่ดีพอ ทำไม่ได้หรอก อย่าไปสนใจค่ะ ขอเพียงแค่คุณ เรียนรู้ และฝึกฝน และสร้างความเชื่อมั่น ให้ตัวเองมีความมั่นใจ ไม่ว่าอะไรก็สำเร็จได้ทั้งนั้นค่ะ สุดท้าย คุณคาร์ไมล์ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ โดยจะไม่ขอพูดว่า ขอให้ทุกคนโชคดี เพราะโชค แทบจะไม่มีผลต่อความสำเร็จของคุณ คุณไม่ต้องโชคดีก็สามารถเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจได้ แต่คุณต้องเรียนรู้จากบุคคลตัวอย่าง เทคนิคต่างๆ และการฝึกฝน คุณต้องมีความกล้าที่จะทำตามความฝันและความต้องการของตัวเอง อีกด้วยค่ะ  

ต้องกล้าที่จะลงมือทำ

สิ่งที่ขายไอเดียได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ ไม่ว่าคุณจะเก่งมาจากไหน จะประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรมา แต่ถ้าหากว่าคุณต้องทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำมาก่อน หรือว่ากลัวที่จะทำมัน หรือคุณคิดว่า คุณไม่มีวันทำสิ่งนั้นได้หรอก ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ ที่เราหามา แต่ที่จริงแล้ว เราสามารถทำในสิ่งที่เรากลัวได้ค่ะ เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองความคิด เชื่อมั่นในตัวเอง และเพิ่มความกล้า ให้กับตัวเอง โอกาสดีๆ ไม่ได้มีบ่อยๆ ถ้ามีมาก็ต้องทำให้ดีที่สุด ผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร ว่ากันอีกที ก้าวแรกที่ต้องทำคือ ต้องเดินออกมาจากความกลัวให้ได้ค่ะ ไอเดียไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหนังสือการพัฒนาตนเองหลายๆ เล่มด้วยกัน จะพูดถึงแต่เรื่องของการคิด คิดเรื่องดีๆ ก็ได้สิ่งดีๆ คิดแบบคนรวย เราก็จะรวย ความสำเร็จเริ่มต้นจากความคิดของเราเองค่ะ 

สนใจต้องการเข้าร่วมกลุ่ม แนะนำไอเดียการหาเงิน >> >>คลิก