เปิดตาที่สาม สู่ความสำเร็จ

ตาที่สาม ความลับสู่ความสำเร็จ ที่ถูกปิดมานานกว่า 1,000 ปี 

75 Views จำนวนผู้เยี่ยมชม

ความลับของตาที่สาม ประตูสู่สติปัญญาและพลังเหนือธรรมชาติ

คุณเคยสงสัยไหมว่า โลกนี้ยังมีอะไรมากกว่าที่เรามองเห็น? คุณเคยมีลางสังหรณ์ที่แม่นยำ อย่างน่าประหลาด หรือรู้สึกถึงพลังงานที่มองไม่เห็นรอบตัวบ้างไหม? สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณ ว่าตาที่สามของคุณกำลังพยายามปลุกคุณให้ตื่นขึ้น สู่ความจริงที่ซ่อนอยู่ ในตัวคุณ

ในวันนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึก และทำความรู้จักกับ ทฤษฎีการเปิดตาที่สาม ความลับสู่ความสำเร็จ พลังเหนือธรรมชาติ ที่สามารถอธิบายได้ พร้อมกับวิธีปฎิบัติ 

คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนรวย คนที่ประสบความสำเร็จมากๆ พวกเขาถึงสามารถนำหน้าคนอื่นๆอยู่เสมอ ทำไมพวกเขาถึงมองเห็นโอกาส ได้มากกว่าคนอื่น หรือทำไม ดูเหมือนพวกเขาทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จไปซะหมด เหมือนว่า คนรวยยิ่งรวยมากขึ้น คุณก็อาจจะสงสัยว่า พวกเขารู้อนาคตหรือเปล่า แล้วพวกเขาเหล่านั้นรู้ได้อย่างไร 

คำตอบก็คือ ดวงตาที่สาม ของพวกเขาเหล่านั้น อาจถูกเปิดออก

เราทุกคนต่างมีตาที่สาม และความสามารถที่ทุกคนมีเท่ากัน แต่มันยังไม่ถูกเปิดออกมาใช้เท่านั้นเอง  

“ตาที่สาม” ไม่ใช่แค่เพียง แนวคิดทางจิตวิญญาณ แต่เป็นความลับที่ถูกเก็บงำมานานกว่าพันปีในหลายอารยธรรม ไม่ว่าจะเป็น ฮินดู พุทธ เต๋า หรืออียิปต์โบราณ ตาที่สาม ถูกกล่าวถึงว่า เป็นศูนย์กลางแห่งญาณหยั่งรู้ และพลังแห่งจักรวาล เมื่อมันถูกเปิดออก เราจะสามารถเข้าถึงระดับของจิตสำนึกอย่างลึกซึ้ง มีสัญชาตญาณที่เฉียบแหลม และเข้าใจชีวิตในมิติที่กว้างขึ้น

วิธีเปิดตาที่สามนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความเชื่อหรือเวทมนตร์ หากแต่เป็นศาสตร์ที่สามารถฝึกฝนได้ ผ่านสมาธิ พลังงานจักกระ การฝึกสติ และการปลดล็อกศักยภาพของจิตใต้สำนึก คนที่สามารถเปิดตาที่สามได้ มักจะมีความสามารถ ในการตัดสินใจอย่างเฉียบขาด สื่อสารกับจิตวิญญาณ หรือแม้แต่เข้าถึงความรู้ ที่อยู่เหนือโลก ทางกายภาพ

นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญที่แยก “ผู้ที่ตื่นรู้” ออกจาก “ผู้ที่ยังหลับใหล” และอาจเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคุณไปตลอดกาล เลยก็เป็นได้

พร้อมแล้วหรือยัง ที่จะเปิดตาที่สามและค้นพบความลับที่ถูกซ่อนมานับพันปี?

ตาที่สามอยู่ตรงไหน?

ตาที่สามตั้งอยู่บริเวณ กึ่งกลางหน้าผาก ระหว่างคิ้วเล็กน้อย ตรงกับตำแหน่งของ อาชะญาจักกระ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของญาณหยั่งรู้และการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ

ทางกายภาพ ตาที่สาม สัมพันธ์กับ ต่อมไพเนียล ซึ่งเป็นต่อมขนาดเล็กมากๆ ขนาดประมาณเมล็ดถั่ว ตั้งอยู่กลางสมองระหว่างสมองซีกซ้ายและขวา ต่อมนี้มีบทบาทสำคัญ ในการรับรู้เวลา วงจรการนอนหลับ และการผลิตสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับจิตสำนึก

ให้คุณผู้ฟังดูรูปภาพ ต่อไปนี้ ตาที่สาม หรือต่อมไฟเนียล ที่อยู่ในสมองของเรา 

ตาที่สาม หรือ ต่อมไพเนียล จะผลิตสารออกมา ด้วยกัน 2 ตัวที่สำคัญ

1 สาร เมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่น ส่งผลต่อคุณภาพของการพักผ่อนและความฝัน

2 สาร ดีเอ็มที หรือสารที่บางคนเรียกว่า “โมเลกุลแห่งจิตวิญญาณ” เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ ประสบการณ์เหนือธรรมชาติ ความฝัน และการเห็นภาพหลอน

นักวิจัยบางคนเชื่อว่า ต่อมไพเนียลอาจผลิต ดีเอ็มที ในปริมาณเล็กน้อยในขณะที่ฝัน ตอนทำสมาธิ หรือประสบการณ์เฉียดตาย ทำให้เกิด ภาพนิมิต หรือการเดินทางของจิตวิญญาณ ที่หลายวัฒนธรรมเชื่อว่า เป็นผลจากการเปิดตาที่สาม

ดังนั้น ตาที่สามจึงไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดทางจิตวิญญาณ แต่ยังมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่อาจเชื่อมโยงกับเคมีในสมองและการรับรู้ของมนุษย์อีกด้วยค่ะ

ตาที่สาม เป็นแนวคิดที่มีอยู่ในหลายวัฒนธรรมและปรัชญาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะใน ศาสนาฮินดู พุทธ และเต๋า ซึ่งเชื่อว่ามันเป็นศูนย์กลางของจิตวิญญาณ สัญชาตญาณ และปัญญาระดับสูง ตาที่สามมักเกี่ยวข้องกับ จักกระที่หก หรือ อาชญาจักกระ ซึ่งอยู่บริเวณกึ่งกลางหน้าผากระหว่างคิ้ว

เมื่อเปิดตาที่สามแล้ว คนๆนั้นจะสามารถรับรู้พลังงานที่มองไม่เห็น เช่น การมีสัญชาตญาณที่เฉียบคมมากขึ้น มีความเข้าใจในจักรวาลที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และการเข้าถึงจิตใต้สำนึกที่แท้จริงของตนเอง

ตาที่สาม มีที่มาและแนวคิดจากไหนบ้าง 

1. ฮินดู

ตามแนวคิดของ อายุรเวทและโยคะ อาชญาจักระเป็นศูนย์กลางของพลังงานทางจิตและสัญชาตญาณ ผู้ที่สามารถเปิดจักระนี้ได้จะมี ญาณหยั่งรู้ และสามารถเข้าถึงมิติที่สูงกว่าความเป็นจริงทางกายภาพ

2. ศาสนาพุทธ

ในพุทธศาสนา แนวมะหายานและวัดชะระยาน ตาที่สามสัมพันธ์กับ ปัญญา และการตื่นรู้ ผู้ที่ฝึกสมาธิจนจิตสงบ สามารถเข้าถึงสภาวะของ “ญาณทัดศะนะ” หรือ “ดวงตาเห็นธรรม”

3. อียิปต์โบราณ

ชาวอียิปต์โบราณมีสัญลักษณ์ “ดวงตาฮอส” ซึ่งเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้อง พลังเหนือธรรมชาติ และญาณหยั่งรู้

4. คัมภีร์เต๋า

ในลัทธิเต๋า “ตาที่สาม” มีความหมายเกี่ยวข้องกับ พลังแห่งพลังชีวิต และการรับรู้จักรวาลแบบองค์รวม ผู้ฝึกพลังชี่กงหรือเต๋าเชื่อว่าการเปิดตาที่สามจะช่วยให้เชื่อมต่อกับพลังจักรวาล

หากต้องการเปิดตาที่สาม ต้องทำอะไรบ้าง 

ขั้นตอนที่ 1. ฝึกสมาธิและเจริญสติ

นั่งสมาธิแบบ อาชะญาจักกระ โดยให้จิตจดจ่ออยู่ที่บริเวณหน้าผากระหว่างคิ้ว

ใช้ มันตรา “โอม” ซึ่งเป็นเสียงสั่นสะเทือน ที่กระตุ้นพลังงานของตาที่สาม

ขั้นตอนที่ 2. ฝึกการหายใจ 

เทคนิค “นาฑีโศธนะ” หรือการหายใจล้างพลังงาน เป็นการหายใจผ่านรูจมูกสลับกันเพื่อกระตุ้นจักกระ

หายใจเข้าลึกๆ แล้วจินตนาการถึงแสงสีครามที่ไหลเข้าสู่บริเวณตาที่สาม

ขั้นตอนที่ 3. การดีท็อกซ์ร่างกายและอาหาร

หลีกเลี่ยง ฟลูออไรด์  ซึ่งเชื่อว่าทำให้ต่อมไพเนียล แข็งตัว

กินอาหารที่มี สารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น บลูเบอร์รี่ องุ่นม่วง และโกโก้แท้

เน้นกินอาหารเพื่อสุขภาพ 

ขั้นตอนที่ 4. ฝึกตระหนักรู้และจดบันทึกความฝัน

ตาที่สามสัมพันธ์กับความฝันและจิตใต้สำนึก ฝึกจำและจดบันทึกความฝันเพื่อเรียนรู้สัญลักษณ์ที่จิตใต้สำนึกส่งมา

ขั้นตอนที่ 5. ใช้แสงกระตุ้น

ใช้เทคนิค จ้องพระอาทิตย์ยามเช้าหรือยามเย็น ออกไปรับแสงพระอาทิตย์อ่อนๆ เพื่อกระตุ้นต่อมไพเนียลให้เปิดออก 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการเปิดตาที่สามคืออะไร

1  มีสัญชาตญาณที่แข็งแกร่ง และสามารถอ่านพลังงานของผู้อื่นได้

2 เข้าใจจักรวาลและชีวิตลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เชื่อมโยงกับพลังแห่งจิตสำนึกสูงสุด

3 มีความสงบในจิตใจ ลดอะตะตา และตัดสินใจอย่างมีสติ

4  สามารถเข้าถึง ประสบการณ์จิตวิญญาณระดับสูง เช่น ญาณทัดศะนะ และการเดินทางออกนอกกาย 

ตาที่สามเป็นมากกว่าตำนาน หรือความเชื่อทางจิตวิญญาณ แต่มันคือ ศูนย์กลางของสัญชาตญาณ ญาณหยั่งรู้ และการตื่นรู้ ที่มีรากฐานจากศาสนาและปรัชญาหลายแขนง 

การเปิดตาที่สามต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างมีสติ ไม่ใช่เรื่องเร่งรัด แต่เป็น กระบวนการแห่งการตื่นรู้ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณให้ดีขึ้นได้ อย่างที่คุณต้องการ 

นี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่ได้ถูกจารึกและถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม